สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มแก๊งติดอาวุธบุกจู่โจมเรือนจำหลักในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศเฮติ ทำให้นักโทษกว่า 4,000 คนในเรือนจำแห่งนี้ หลบหนีออกไปได้สำเร็จ ตอกย้ำสถานการณ์ความรุนแรงในเฮติ ซึ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แก๊งอาชญากรรมในเฮติก่อเหตุความไม่สงบเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี อาริเอล อองรี และควบคุมพื้นที่กรุงปอร์โตแปรงซ์เอาไว้ถึง 80% โดยการลุกฮือครั้งล่าสุดเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.พ. 2567 ในขณะที่นายอองรีเดินทางเยือนกรุงไนโรบี ของประเทศเคนยา เพื่อหารือเรื่องการส่งกองกำลังความมั่นคงนานาชาติซึ่งนำโดยเคนยา มายังเฮติ
นายจิมมี เชริซิเอร์ อดีตตำรวจ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำแก๊งอาชญากรรม ที่เชื่อกันว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสังหารหมู่มากมายในปอร์โตแปรงซ์ ออกมาประกาศร่วมมือกันโจมตีเพื่อโค่นนายอองรีลงจากตำแหน่ง “พวกเรา กลุ่มติดอาวุธในจังหวัดต่าง และกลุ่มติดอาวุธในเมืองหลวง รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน”
การโจมตีหลายระลอกนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บอีก 5 ราย สถานทูตฝรั่งเศสในเฮติต้องคำเตือนเรื่องการเดินทางเข้าออกกรุงปอร์โตแปรงซ์ ด้านสหภาพตำรวจของเฮติ ออกมาเรียกร้องให้กองทัพมาช่วยเสริมกำลังที่เรือนจำหลัก แต่เรือนจำกลับถูกบุกโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์ (2 มี.ค.)
จนถึงช่วงเช้าวันอาทิตย์ (3 มี.ค.) ประตูเรือนจำยังคงเปิดกว้าง โดยไม่มีวี่แววของเจ้าหน้าที่ ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีนักโทษ 3 คนที่พยายามหลบหนี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณลานกว้างของเรือนจำด้วย
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของเรือนจำ บอกกับนักข่าวของรอยเตอร์ว่า มีนักโทษ 99 คน ซึ่งรวมถึงอดีตทหารโคลอมเบีย ที่ถูกคุมขังในข้อหาเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส เมื่อปี 2564 ตัดสินใจอยู่ในห้องขังต่อโดยไม่หนี เนื่องจากกลับถูกสังหารในการยิงปะทะ
ทั้งนี้ เฮติไม่ได้จัดการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2559 แล้ว และเฮติยังไม่มีประธานาธิบดีคนใหม่หลังนายโมอิสถูกสังหาร แต่มีการทำข้อตกลงทางการเมืองกันว่า จะมีการจัดการเลือกตั้ง และนายอองรี ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจะลงจากอำนาจภายในวันที่ 7 ก.พ. แต่เรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้น
เมื่อเดือนมกราคม สหประชาชาติระบุว่า มีพลเรือนตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของแก๊งอาชญากรรมเฮติมากกว่า 8,400 ศพ ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 กว่าเท่าตัว
ที่มา : bbc